เป็นเกมที่เปิดแลกหมัดกันอย่างเมามันส์แต่ผลจบลงที่ชัยชนะของ Leicester City เจ้าของสมญานามจิ้งจอกสยาม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมเลสเตอร์ ซิตี้ รู้สึกยินดีและภาคภูมิใจในการที่ทีมมีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมจนสามารถมีชัยชนะเหนือทีมเชลซี นับได้ว่าเป็นการคว้าชัยชนะ 3 นัดติดให้กับจิ้งจอกสยาม นับตั้งแต่เริ่มต้นปีใหม่มา
การเล่นเสมอต้นเสมอปลายที่อาจจะกลายเป็นผุ้พิชิตได้ง่ายๆ ถ้าหากว่ายังเล่นเกมบุกได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องจะส่งผลต่อเกมต่อไปว่า ทีมทั้งหลายจำเป็นต้องกลัวการกลับมาของพลพรรคขุนพลจิ้งจอก และแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขาพร้อมที่จะแย่งแชมป์กับทุกทีม
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในเกมการแข่งขัน มีหลายสาเหตุ อาจจะถึงขั้นปลด แฟร้งค์ แลมพาร์ด ด้วยซ้ำ เนื่องจาก ผู้เล่น 11 คนแรกที่จะเป็นตัวจริงสำหรับกุนซือ รายนี้ยังคงไม่สามารถตอบได้ และยังใช้เงินเหมือนเททิ้งลงทะเล ที่ไม่ได้อะไรกลับมาแบบเป็นชิ้นเป็นอัน ยิ่งเล่นยิ่งหลุดกรอบ เป๋ไปเป๋มา สโมสรคาดหวังกับตำนานนักเตะคนนี้ไว้เยอะถึงแม้ว่ารูปเกมจะเล่นได้ค่อนข้างดีแต่ผลงานที่ได้มันไม่ประทับใจ คล้ายกับการเล่นที่ไม่มีความมั่นใจจนทำให้ทีมถดถอยลงไป
แต่หากดูการเล่นตลอดทั้งเกม กองหลังเชลซีค่อนข้างย่ำแย่ ในช่วงเวลาสถานการณ์ยากลำบากการเสียประตูทั้ง 2 ประตูที่เกิดขึ้น คือ การหลุดจากการประกบของกองหลังทั้งสิ้น ลูกยิงลูกแรกไม่สามารถโทษว่าเป็นความผิดทั้งหมดของผู้รักษาประตูได้เลย จากการยิงอย่างสวยงามลูกยิงเบียดเสาชิ่งเข้าประตู ไม่มีใครเข้ามาประกบ ประตูที่ 2 ก็เกิดขึ้นจากการที่หลุดการประกบ และ หลายๆครั้งที่เกือบเสียประตู มาจากการที่หลุดการประกบตัว โอกาสยิงประตู 5 ครั้ง ตรงกรอบ 4 ครั้ง แต่ไม่สามารถทำเป็นประตูได้เลย กลับกันเลสเตอร์ยิงตรงกรอบ 2 ครั้ง และเป็นประตูทั้ง 2 ครั้ง
อีกหนึ่งส่วนที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ กองกลางที่ขาดหายไป ทำให้การเชื่อมเกมในแดนกลางของเลสเตอร์เหนือกว่า เพราะการที่ไม่มี ก๊องเต้ ที่มักจะวิ่งเข้ามาบีบเพื่อให้มีโอกาสยิงได้อย่างง่ายๆ การหาคนมาทดแทนในตำแหน่งนี้นับว่ายากเย็นเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะมีข่าวว่าเชลซีต้องการที่จะเซ็นต์สัญญากับไรซ์ ของทีมขุนค้อนแต่บอกเลยว่าหินเสียยิ่งกว่าหิน เนื่องจากถ้าต้องการจริงๆจะมีราคาที่สูงสุดโต่งอย่างแน่นอนกับสถานการณ์ในตอนนี้
หากดูกันจริงๆ เชลซีเป็นที่คาดหมายในการเป็นทีมที่จะขึ้นเต็งแชมป์เช่นกัน เพราะการเสริมขุมกำลังกองทัพมากมายแต่ผลงานกับทำได้ไม่เท่ากับร็อดเจอร์ที่ใช้งบประมาณไปแค่ 10 ล้านปอนด์ เรียกได้ว่าเป็นการพิชิตได้อย่างยอดเยี่ยม ต้องกลับมาดูว่าการแก้เกมในครั้งต่อไปของ เฮียแฟรงค์จะเป็นอย่างไร