097-456-7891 ถึง 5
@mb.co LOG IN

Firmino-image

โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ศูนย์หน้าตัวเก่งของทีมขวัญใจมหาชนอย่างทีมลิเวอร์พูลพลิกวิกฤตในช่วงที่ไวรัสโควิค-19 ที่กำลังระบาดด้วยการชวนครอบครัวมาเล่นฟุตบอลในสวนบ้านของตัวเอง ที่สำคัญคือโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ได้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู และยังโชว์ฟอร์มเซฟลูกยิงได้หมดทุกลูก ซึ่งจริงๆ แล้วตัวของเขาเล่นในตำแหน่งกองหน้า แต่กลับโชว์ฟอร์มเทพในการป้องกันประตูจนทำเอา อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมหงส์แดงอาจจะโดนแย่งตำแหน่งก็เป็นไปได้ในอนาคต ไวรัสโควิค-19 ตอนนี้ทำเอากีฬาที่มีการแข่งขันทั่วโลกต้องหยุดอย่างไม่มีกำหนด ทำให้บรรดานักฟุตบอลอาชีพต้องเจอกับผลกระทบเหล่านี้ไปด้วย ไม่เว้นแต่ฟีร์มีโน่ที่ต้องอยู่กับครอบครัวและไม่สามารถออกไปสนามซ้อมได้ ส่งผลให้ฟีร์มีโน่ต้องหันมาลงซ้อมฟุตบอลกับครอบครัว เป็นกิจกรรมที่ดาวยิงชาวบราซิเลียนต้องมารับบทหน้าด่านจำเป็น ซอตที่สำคัญคือเจ้าตัวโชว์ปัดบอลด้วยปลายมือแล้วคนที่ยิงไม่เข้าก็จะถูกลงโทษ ซึ่งโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ก็ไม่ทำให้แฟนคลับของทีมตัวเองต้องผิดหวังด้วยการเซฟจนคนในครอบครัวไม่สามารถยิงประตูได้เลย ทำเอาชาวเน็ตได้โพส์ข้อความในอินสตาแกรมว่าเขาคือผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก

Roberto-Fermino-pic

 

กระแสการย้ายทีมของโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่

ก่อนหน้านี้มีข่าวเกี่ยวกับการที่ทีมลิเวอร์พูลต้องการชื้อ แวร์เนอร์ ดาวยิงของเสือใต้บาเยิร์น มิวนิคสโมสรใหญ่ในบุนเดสลีกาเยอรมัน ทำให้ฟีร์มีโน่เริ่มติดต่อกับตัวแทนของตัวเองในช่วงไวรัสโควิค-19 ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่กับการย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ ถึงแม้ว่าฟีร์มีโน่จะไม่สามารถยิงประตูได้เยอะเหมือนกับกองหน้ารายอื่นๆ แต่เขาก็เปรียบเหมือนชายผู้ที่ปิดทองหลังพระด้วยการมีส่วนรวมกับ ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ด้วยการดึงแนวรับ และคอยส่งบอลให้เพื่อนทำประตู ฯลฯ ซึ่งการขายฟีร์มีโน่นั้นอาจจะส่งผลที่เลวร้ายกับทีมไม่มากก็น้อย ประกอบกับข่าวลือ ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมคนเก่งต้องการได้ตัวติโม แวร์เนอร์มายืนในบทบาทหัวหอกตัวเป้าของทีม ทำให้กกระแสการย้ายทีมของทั้งสองคนมีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียว ด้วยสถิติการทำประตูของทั้งคู่นั้นไม่สามารถนำมาเทียบกันได้เพราะหน้าที่ของสองดาวยิงนั้นไม่เหมือนกัน มาดูกันว่าทักษะของทั้งคู่มีข้อดีข้อเสียอย่างไร

Werner-photo

  • การเลี้ยงบอล

– โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ถือว่าเป็นกองหน้าที่เลี้ยงบอลได้ดีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1.6 ครั้งต่อนัด

– แวร์เนอร์ ก็ไม่แพ้กันเขาทำการเลี้ยงบอลได้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1.9 ครั้งต่อนัด

  • การครองบอล

– ฟีร์มีโน่เป็นผู้เล่นที่ไม่เสียบอลง่ายๆ เลยทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลมีความดุดันมากสำหรับค่าเฉลี่ยในการโดนคู่แข่งแยกบอลอยู่ที่ 1.2 หนต่อนัด

– แต่กับแวร์เนอร์เขาสามารถเก็บบอลได้ดีกว่าโดนคู่แข่งแยกบอลไปด้วยค่าเฉลี่ย 1 หน ต่อ 1 นัดเท่านั้น

สรุป: ทั้งคู่เล่นในลีกที่แตกต่างกันจึงยากจะตัดสินได้ว่าใครคือคนที่ใช่ที่สุดในแนวรุกของลิเวอร์พูลในเวลานี้ ซึ่งนั้นก็ขึ้นอยู่กับนายใหญ่อย่างเจอร์เก้น คล็อปป์ว่าเขาจะเลือกใครกับตำแหน่งกองหน้าของทีมหงส์แดงในอนาคต